การส่งเสริมศักยภาพและความยั่งยืนร่วมกับคู่ค้า


           เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์อันดีและร่วมกันพัฒนาศักยภาพในการดำเนินงานบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน โดยการสื่อสารกับคู่ค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เกี่ยวกับการจัดการห่วงโซ่อุปทานแบบบูรณาการ วางแผนพัฒนาศักยภาพ ส่งเสริมสนับสนุน และผลักดัน บริษัทคู่ค้าให้มีการจัดการที่ดีร่วมกัน โดยการยกระดับศักยภาพคู่ค้า ผ่านการประเมินทางความยั่งยืน ด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพสูงสุด

แผนงานที่จะพัฒนาและยกระดับศักยภาพคู่ค้า

  1. สำหรับคู่ค้ารายใหม่ ใช้เกณฑ์การประเมินที่ครอบคลุมประเมินตนเอง พร้อมทั้งเซ็นรับทราบจรรยาบรรณทางธุรกิจของคู่ค้า
  2. สำหรับคู่ค้ารายเดิม วางแผนดำเนินการให้คู่ค้าทำแบบประเมินตนเอง ประเด็นทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้แรงงาน ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมใหม่ทั้งหมด พร้อมทั้งเซ็นรับทราบจรรยาบรรณทางธุรกิจของคู่ค้า

บริษัทฯ คัดเลือกและสนับสนุนคู่ค้าที่คำนึงถึงด้านสังคม และที่ได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ISO:14000, Green Procurement  เป็นอันดับแรก
         
กรณีไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทางคู่ค้าต้องวางแผนการปรับวิธีการดำเนินงาน มีระยะเวลาที่ชัดเจน และแจ้งผลสำเร็จให้บริษัทฯ ทราบ


ผลการดำเนินงาน

ดำเนินการติดตามผลและแสดงผลการดำเนินงานการส่งเสริมศักยภาพและความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนร่วมกับคู่ค้าอย่างสม่ำเสมอ ในการดำเนินการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน คำนึงถึงด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม เช่นการใช้แรงงาน ความปลอดภัย ด้านสินค้า บริการ และด้านการดำเนินธุรกิจ  เพื่อให้มั่นใจว่าคู่ค้าได้ปฏิบัติตามแนวปฏิบัติสำหรับคู่ค้าธุรกิจ
        
เป้าหมายการติดตามผลและผลการดำเนินงานการส่งเสริมศักยภาพ               

  เป้าหมาย (ร้อยละ) ผลการดำเนินงาน ปี 2566
ด้านสิ่งแวดล้อม     100 75
ด้านสังคม / การใช้แรงงาน ความปลอดภัย 100 75
ด้านสินค้า และบริการ 100 100
ด้านการดำเนินธุรกิจ             100 100

           ผลจากการตอบแบบประเมินตนเองปี 2566 ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม เช่นการใช้แรงงาน ความปลอดภัย ด้านสินค้า บริการ และด้านการดำเนินธุรกิจ  (ESG) คู่ค้าที่ไม่ถึงเป้าหมายที่กำหนด ได้มีการประชาสัมพันธ์วางโครงการแผนพัฒนาร่วมกันกับคู่ค้าให้เห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพ ทำการตรวจติดตามปีละ 1 ครั้ง

การคัดเลือกคู่ค้ารายใหม่

  1. การจัดซื้อทำการสรรหา และคัดเลือกคู่ค้ารายใหม่ โดยตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น และแนบเอกสารประกอบ ได้แก่ หนังสือรับรองบริษัท, ภพ.20, สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, บัตรแสดงตัวตนหรืออื่นๆ (ถ้ามี) หากมีเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว  ต้องแนบหนังสือขอความยินยอมของคู่สัญญา
  2. การจัดซื้อลงแบบประเมินคู่ค้า สินค้าในการผลิตสินค้ารายใหม่สำหรับครั้งแรกที่ทำการซื้อ เพื่อทำการประเมินตนเองในเรื่องการปฏิบัติตามจรรยาบรรณการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนคำนึงถึงประเด็น ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งยินดีให้บริษัทฯ เปิดเผย หากบริษัทฯ มีความจำเป็นต้องแสดงความโปร่งใสในการดำเนินงาน
  3. การจัดซื้อทำการรวบรวมใบเสนอราคา จากคู่ค้าที่ผ่านการประเมินแล้ว ทำการเปรียบเทียบโดยใช้ รายละเอียดใบเสนอราคาจะต้องมีรายละเอียดสินค้า ผู้เสนอ  ตราประทับของบริษัทคู่ค้า ราคาต่อหน่วย ชื่อสินค้า การยืนราคา เครดิตเทอม ระยะเวลาการจัดส่ง หรือรายละเอียดอื่นที่เกี่ยวกับเรื่องคุณภาพโดยบันทึกรายละเอียด ทำการเปรียบเทียบ  เพื่อนำเสนอต่อผู้มีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติจัดซื้อ
การตรวจสอบคุณภาพสินค้า
  1. กรณีคู่ค้ารายใหม่ ต้องตรวจคุณภาพก่อนจัดซื้อ โดยเฉพาะสารเคมี มีการส่งตัวอย่างทดสอบ ให้กับฝ่ายวิจัยและพัฒนา  เพื่อทำการทดสอบคุณสมบัติว่าตรงตามที่ต้องการ หรือไม่ และทำการบันทึกผลการทดสอบว่าผ่าน / ไม่ผ่าน และแจ้งผู้ให้กับทางคู่ค้ารับทราบ
  2. กรณีคู่ค้ารายเดิม  หากไม่ได้มีการซื้อขายกันเกิน 6 เดือน ต้องทำการส่งตัวอย่างทดสอบใหม่
  3. กรณีคู่ค้ารายเดิมที่มิใช่เป็นผู้ผลิต แต่ได้มีการเปลี่ยนแหล่งผลิต ต้องทำการส่งตัวอย่างทดสอบใหม่             

การรักษาความปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและความปลอดภัยทางไซเบอร์


วัตถุประสงค์และขอบเขต
     บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กำหนดนโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยกำหนดให้เป็นมาตรฐานแนวปฏิบัติขั้นตอนปฏิบัติให้ครอบคลุมด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

  1. การจัดทำนโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและมีความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของบริษัททำให้ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
  2. กำหนดขอบเขตของการบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อ้างอิงตามมาตรฐาน ISO/IEC 27001 และมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
  3. นโยบายนี้จะต้องทำการเผยแพร่ให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับในบริษัทได้รับทราบ และเจ้าหน้าที่ทุกคน จะต้องถือปฏิบัติตามนโยบายนี้อย่างเคร่งครัด
  4. เพื่อกำหนดมาตรฐานแนวทางปฏิบัติและวิธีปฏิบัติให้ผู้บริหารเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลระบบ และบุคคลภายนอกที่ปฏิบัติงานให้กับบริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ในการใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของบริษัทในการดำเนินงานและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
  5. ระบบและระเบียบปฏิบัติจะต้องตรวจสอบ ทบทวน และประเมินผลทุกปี
 
องค์ประกอบของนโยบาย

 
การดำเนินการตอบสนองเหตุการณ์ความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ
     องค์ประกอบของนโยบายการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของบริษัทแต่ละส่วนที่กล่าวข้างต้น จะประกอบด้วยวัตถุประสงค์รายละเอียดของมาตรฐาน (Standard) แนวทางปฏิบัติ (Guideline) และขั้นตอนวิธีการปฏิบัติ (Procedure) ในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท เพื่อที่จะทำให้บริษัทมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารอยู่ในระดับที่ปลอดภัย ช่วยลดความเสียหายต่อการดำเนินงานทรัพย์สินบุคลากรของบริษัท ทำให้สามารถดำเนินงานได้อย่างมั่นคงปลอดภัยนโยบายการเข้าใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของบริษัทนี้ จัดเป็นมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของบริษัท ซึ่งเจ้าหน้าที่ของบริษัทและหน่วยงานภายนอกต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
 

กิจกรรม
  • การรายงานภัยคุกคามใหม่ๆ ให้แก่คณะกรรมการบริหาร ประจำทุกเดือน
  • จัดทำสื่อ และทำการประชาสัมพันธ์ในช่องทางต่างๆ ความรู้เกี่ยวกับภัยทางไซเบอร์และมาตรการป้องกัน เพื่อเป็นการให้ความรู้ และพร้อมรับมือในแต่ละรูปแบบ
  • จัดให้มีการจำลองสถานการณ์การโจมตีด้วยภัยคุกคามทางไซเบอร์ เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยและสร้างกระบวนการตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์  ปีละ 1 ครั้ง
  • จัดกิจกรรมสัมมนา และเกมส์ออนไลน์เพื่อให้พนักงาน หรือผู้สนใจทั่วไปได้ร่วมกิจกรรมอย่างสนุกสนามและได้ความรู้ไปพร้อมกัน มาร่วมแบ่งปันถึงภัยไซเบอร์
  • จัดทำ Security Tips, Security Alert และข้อมูลอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับความปลอดภัยข้อมูลและไซเบอร์
  • จัดทดสอบ Phishing Drill โดยส่งอีเมลปลอมให้พนักงานของบริษัทฯ เพื่อทดสอบและสร้างความตระหนัก ตลอดจนเป็นการฝึกวิธีการรับมือเมื่อพนักงานได้รับอีเมลปลอมในสถานการณ์จริงอย่างสม่ำเสมอ โดยผลจากการทดสอบพบว่าพนักงานตระหนักและระมันระวังในการสังเกต Phishing Mail มากขึ้น


จรรยาบรรณธุรกิจสำหรับบริหารคู่ค้า 
บทนำ
          กลุ่มบริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป (“กลุ่มบริษัท) มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยความโปร่งใสสุจริต เป็นไปตามกฎหมาย รวมถึงให้ความสำคัญต่อหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยเหตุนี้ กลุ่มบริษัท จึงได้กำหนดจรรยาบรรณธุรกิจสำหรับบริษัทคู่ค้า (Supplier Code of Conduct) เพื่อให้คู่ค้าใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจสอดคล้องกับข้อกำหนดกฎหมาย และจรรยาบรรณของบริษัท ตลอดจนมาตรฐานสากล ซึ่งจะช่วยผลักดันให้คูค้าของกลุ่มบริษัทดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม คำนึงถึงสิทธิมนุษยชน เกิดความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้กลุ่มบริษัทมุ่งหวังให้คู่ค้าดำเนินธุรกิจตามหลักการที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ รวมถึงสนับสนุนให้คู่ค้ามีนโยบายการจัดจ้างอย่างยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน และเสริมสร้างการเติบโตในระยะยาวไปด้วยกัน

นิยาม
          คู่ค้า หมายถึง ผู้ขายสินค้า ผู้รับจ้าง และ/หรือ ผู้ให้บริการ ทั้งที่เป็นนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาแก่กลุ่มบริษัทรวมถึงผู้รับจ้างช่วงของผู้ขายสินค้าผู้รับจ้างและ/หรือผู้ให้บริการดังกล่าว

ปรัญชาในการดำเนินธุรกิจ
          บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจภายใต้ปณิธานอันแน่วแน่ ในด้านการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เพื่อผลิตสินค้าที่ดีและมีคุณภาพที่เหนือกว่ามาตรฐานสากลอันเป็นที่ยอมรับกันในระดับนานาชาติ รวมถึงการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ในด้านการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และให้สอดคล้องกับการพัฒนาของตลาดโลกอย่างยั่งยืน
          ด้วยเหตุผลดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทจึงกำหนดเป้าหมาย และวิธีการต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จตามเป้าหมายดังที่ระบุอยู่ในวิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยม หลักการ นโยบาย รวมถึงจริยธรรม และจรรยาบรรณธุรกิจฉบับนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและถูกต้องแก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของกลุ่มบริษัท ในอันที่จะ ได้รับทราบถึงมาตรฐานการปฏิบัติงานตามที่กลุ่มบริษัทคาดหวัง และยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน นับตั้งแต่การปฏิบัติงาน ผู้ถือหุ้น ลูกค้าคู่ค้า คู่แช่งทางการค้า ผู้มีส่วนได้เสีย และสังคมโดยรวม
  • วิสัยทัศน์ (Vision) เราจะเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในอุตสาหกรรมการผลิตน้ำยางข้นของโลก โดยสร้างสรรค์สินค้าคุณภาพที่เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อความยั่งยืนและมั่นคงของธุรกิจ
  • พันธกิจ (Mission) เป็นผู้ผลิตน้ำยางข้นที่มุ่งเน้นในคุณภาพเหนือกว่ามาตรฐานสากล เพื่อสนองตอบความต้องการและความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า
  •  ค่านิยม (Values)
“T” = การทำงานเป็นทีม การทำงานเป็นทีม (Teamwork)
“H” = คุณภาพดีเหนือกว่ามาตรฐาน คุณภาพดีเหนือกว่ามาตรฐาน (High Quality)
“A” = ความรับผิดชอบต่อหน้าที่และผลงาน ความรับผิดชอบต่อหน้าที่และผลงาน (Accountability)
“I” = ความซื่อสัตย์ ความซื่อสัตย์ (Integrity)
“T” = ความโปร่งใส ความโปร่งใส (Transparency)
“E” = ความมีประสิทธิภาพ และรักษาสิ่งแวดล้อม ความมีประสิทธิภาพ และรักษาสิ่งแวดล้อม (Efficiency and Environment)
“X” = มุ่งสู่ความเป็นเลิศ มุ่งสู่ความเป็นเลิศ (Excellence)

1. จรรยาบรรณทางธุรกิจ  (Business Ethics)
1.1 การกำกับดูแลกิจการ: คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความถูกต้อง ซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่ง และไม่กระทำใดๆ ที่เป็นการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ
1.2 การประกอบธุรกิจด้วยความเป็นธรรม: คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นธรรม มีจรรยาบรรณ และตั้งมั่นที่จะแข่งขันทางการค้าตามหลักจริยธรรมในการประกอบการค้า กฎหมาย และหลักแข่งขันทางการค้าอย่างเสมอภาคกัน รวมถึงปฏิเสธพฤติกรรมใดๆ ก็ตามที่ขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม
1.3 ความขัดแย้งทางผลประโยชน์: คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องไม่กระทำการใดๆ เพื่อแสวงหาผลประโยขน์ส่วนตน หรือ เอื้อประโยชน์แก่บุคคลใกล้ชิด จากตำแหน่งหน้าที่และโอกาสต่างๆ ที่อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ หรือมีส่วนได้เสียระหว่างคู่ค้ากับบุคลากรของกลุ่มบริษัท
1.4 การรักษาข้อมูลอันเป็นความลับ: คู่ค้าของกลุ่มบริษัทต้องไม่เผยแพร่ หรือไม่นำข้อมูลที่เป็นความลับ และ/หรือ ข้อมูลภายในของกลุ่มบริษัท ไปแสวงหาผลประโยชน์แก่ตนเอง หรือเพื่อประโยชน์แก่บุคคลอื่นใด ไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม และไม่นำข้อมูลดังกล่าวไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอม
1.5 การใช้ และการดูแลทรัพย์สินทางปัญญา: คู่ค้าของกลุ่มบริษัทต้องให้ความเคารพ และไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น ซึ่งรวมถึง เครื่องหมายทางการค้าสิทธิบัตร และไม่ปลอมแปลงหรือใช้ทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
1.6 การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน: คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องไม่กระทำ หรือสนับสนุนการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบทั้งในทางตรงและทางอ้อม รวมถึงจัดให้มีนโยบายการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ตลอดจนควรเข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์และขอรับรองการเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต (CAC)

2. ด้านสิทธิมนุษยชนและแรงงาน (Labor Practice and Human Right)
2.1 การไม่เลือกปฏิบัติการ: คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องเคารพในศักดิ์ศรีของลูกจ้าง ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และปฏิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียม โดยไม่แบ่งแยกจากความแตกต่างในกาย จิตใจ เชื้อชาติ ศาสนา เพศ ภาษา อายุ สีผิว การศึกษา สถานะทางสังคม หรือในเรื่องอื่นใด
2.2 การไม่บังคับใช้แรงงาน: คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องไม่ใช้แรงงานบังคับ แรงงานที่มาจากการค้ามนุษย์ หรือแรงงานเด็กอันมิชอบด้วยกฎหมายรวมถึงการลงโทษที่เป็นการทารุณร่างกาย หรือจิตใจพนักงาน ไม่ว่าด้วยการขู่เข็ญ การกักขัง หน่วงเหนี่ยว การคุกคาม การข่มขู่ การล่วงละเมิด หรือการใช้ความรุนแรงไม่ว่าในรูปแบบใด
2.3 การคุ้มครองสิทธิแรงงาน: คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องไม่จ้างแรงงานที่ผิดกฎหมาย ในกรณีที่มีการแจ้งแรงงานเด็กที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 18 ปี ต้องจัดให้แรงงานได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายกำหนด หากเป็นแรงงานต่างด้าว ต้องดำเนินการว่าจ้างให้ถูกต้องตามกฎหมายอย่างครบถ้วน
2.4 ค่าจ้าง สิทธิประโยชน์ และระยะเวลาการทำงาน: คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องจ่ายค่าตอบแทน ให้เหมาะสมตามความสามารถและศักยภาพของพนักงาน รวมถึงให้สิทธิประโยชน์ที่ลูกจ้างพึงได้รับตามกฎหมาย ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานกำหนด และตรงตามกำหนดเวลา การทำงานล่วงเวลา หรือทำงานในวันหยุด ต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจของลูกจ้าง รวมทั้งจัดให้ลูกจ้างมีวันหยุด วันลาไม่น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด
2.5 การเลิกจ้าง: ในกรณีคู่ค้าของกลุ่มบริษัท มีการเลิกจ้างต้องมีกระบวนการเลิกจ้างตามกฎหมายแรงงาน
 
3. ด้านความปลอดภัย และอาชีวอนามัย (Safety and Occupational Health) 
3.1 ความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน: คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานให้มีความปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ และถูกหลักอนามัยให้กับพนักงาน รวมถึงมีการควบคุมและป้องกันให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ เหตุฉุกเฉิน การเจ็บป่วย และการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน
3.2 อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล: คู่คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายที่มีในสถานที่ทำงานแก่ผู้ปฏิบัติงานและผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเพียงพอ มีการประเมินความเสี่ยง พร้อมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลที่ได้มาตรฐานและเหมาะสม
3.3 การเตรียมความพร้อมในสถานการณ์ฉุกเฉิน: คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องมีการกำหนดแผนเตรียมความพร้อมรับมือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น การติดตั้งระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย การรายงานเหตุฉุกเฉิน การฝึกอบรมและฝึกซ้อมให้กับพนักงานอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการสื่อสารให้พนักงานมีความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อให้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง และทันท่วงทีเมื่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่ปกติ
 
4. สิ่งแวดล้อม (Environment)
4.1 ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม: คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องปฏิบัติตาม กฎระเบียบ ด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามข้อตกลงระดับสากลในเรื่องต่างๆ เพื่อช่วยป้องกัน หรือลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
4.2 ใช้ทรพยากรอย่างคุ้มค่า และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องให้ความสำคัญต่อการประหยัดพลังงาน และใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและ มีประสิทธิภาพ เช่น การลดการใช้น้ำ ไฟฟ้า น้ำมัน เป็นต้น รวมทั้งส่งเสริมการทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งจะส่งผลดีต่อการทำธุรกิจในระยะยาว

5. ความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility)
           คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องดำเนินธุรกิจที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ และสังคม ยึดมั่นปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อคังคับที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน พร้อมทั้ง มุ่งมั่นที่จะดำเนินการยกระดับคุณภาพของชุมชนและสังคม รวมถึงส่งเสริมการปลูกฝังจิตสำนึกของพนักงานให้มีความรับผิดชอบสังคมอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไป

6. ช่องทางการแจ้งเบาะแส และข้อร้องเรียน (Whistleblowing Channels)
          กรณีที่คู่ค้าและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มมีข้อสงสัย หรือพบเห็นการกระทำที่สงสัยว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ข้อบังคับ หรือจรรยาบรรณ ท่านสามารถแจ้งเบาะแส หรือข้อร้องเรียน พร้อมส่งรายละเอียดหลักฐานต่างๆ ในช่องทางการติดต่อ ดังนี้
  • จดหมายอิเล็กทรอนิกส์จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่ได้ที่
- ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ E-Mail: [email protected]
  • ไปรษณีย์ โดยระบุหน้าซองถึงหรือยื่นโดยตรงได้ที่
- ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ

          ที่อยู่ บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 99/1-3 หมู่ที่ 13 ถนนบางนา-ตราด กม.7 ตำบบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
          โดยบริษัทฯ จะรับฟังและดำเนินการกับทุกข้อร้องเรียนอย่างเสมอภาค โปร่งใสและเป็นธรรม โดยมีมาตรการคุ้มครองผู้ร้องเรียนที่เป็นระบบและยุติธรรม ข้อมูลของผู้ร้องเรียนจะถูกเก็บรักษาไว้เป็นความลับของบริษัทฯ ตลอดจนมีแนวทาง เพื่อคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสหรือผู้ร้องเรียน พยาน และบุคคลที่ให้ข้อมูลในการสืบสวนหาข้อเท็จจริง ไม่ให้ได้รับความเดือดร้อน อันตรายใดหรือความไม่ชอบธรรมอันเกิดมาจากการแจ้งเบาะแส ร้องเรียน การเป็นพยาน หรือการให้ข้อมูล