เกี่ยวกับเรา
          บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อว่า“ THAITEX” ก่อตั้งเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2528 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำยางข้นและผลิตภัณฑ์จากน้ำยางข้นอื่น ๆ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2536 บริษัทได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีการซื้อขายหุ้นภายใต้ชื่อ TRUBB ซึ่ง THAITEX กลายเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับอย่างมากในอุตสาหกรรมน้ำยางข้นระดับโลก
 
          บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจภายใต้ปณิธานอันแน่วแน่ในด้านการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เพื่อผลิตสินค้าที่รักษ์โลก ที่มีคุณภาพที่เหนือกว่ามาตรฐานสากลอันเป็นที่ยอมรับกันในระดับนานาชาติ รวมถึงการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในด้านการผลิต เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และให้สอดคล้องกับการพัฒนาของตลาดโลกอย่างยั่งยืน
          สินค้าเรา คือ ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก เรามอบสินค้าที่มีคุณภาพดีที่สุดให้แก่ลูกค้า เราสร้างความมั่งคั่งยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้น
1. ผลิตสินค้ารักษ์โลกที่มีคุณภาพเหนือกว่ามาตรฐานสากล เพื่อตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้า
2. สร้างสรรค์สินค้าคุณภาพที่เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
3. พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างคุณค่าการพัฒนาที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย
4. พัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และมี ESG Mindset
 
 
ค่านิยม
T : Trustworthy (ความไว้วางใจ)
    มีความซื่อสัตย์  รักษาสัญญาและคำพูด  พูดจริงทำจริง  รับประกันการส่งสินค้าที่คุณภาพและตามเวลาที่กำหนด
 
H : High Quality (คุณภาพดีเหนือกว่ามาตรฐาน)
     ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงกว่ามาตรฐานที่กำหนด  เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุด
A : Accountability (ความรับผิดชอบต่อหน้าที่และผลงาน)
     พนักงานรู้จักหน้าที่ มีความรับผิดชอบ ทำงานอย่างมีวินัย เอาใจใส่ในการทำงาน ส่งมอบงานได้ถูกต้องตามกำหนด กล้าเผชิญอุปสรรค เพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย
I : Innovation (นวัตกรรม)
    ริเริ่มสิ่งใหม่ คิดนอกกรอบ เปิดรับสิ่งใหม่ๆ  พัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง มีความกล้าลองผิดลองถูก มีความอยากรู้ อยากลอง และมีความคิดสร้างสรรค์
T : Teamwork (การทำงานเป็นทีม)
    พนักงานมีความร่วมมือกันทุกหน่วยงาน ช่วยเหลือกันในทุกงานด้วยความเต็มใจ  ช่วยกันแก้ปัญหาโดยมีเป้าหมายเดียวกัน ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและพร้อมนำไปแก้ไขปรับปรุง
E : ESG (การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน)
    ขับเคลื่อนการดำเนินงาน โดยคำนึงถึงประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนขององค์กร และผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องในส่วนงานที่รับผิดชอบ ให้สอดคล้องกับหลักปฏิบัติสากล ในด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี
X : Excellence (มุ่งสู่ความเป็นเลิศ)
    การมุ่งเน้นการปฏิบัติหน้าที่ให้มีมาตรฐานเป็นเลิศ เป็นผู้นำตลาด พัฒนาศักยภาพให้มีความพร้อมในทุกๆ ด้านเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินและธุรกิจ
กลยุทธ์
 
1. มุ่งเน้น ESG : (Environmental (สิ่งแวดล้อม) Social (สังคม) และ Govermance (ธรรมาภิบาล) , BCG หรือเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) ทั่วทั้งองค์กร เพื่อสร้างเสริมความยั่งยืน (Sustainability) ขององค์กร
2. เพิ่มยอดผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นผู้นำทางการตลาด
3. เพิ่มผลผลิตน้ำยางสด และพัฒนากระบวนการการทำงานภายใน
4. มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์เกรดพรีเมี่ยมต่าง ๆ
5. การใช้มรัพย์สินและทรัพยากรที่มีอย่างคุ้มค่า
6. ลดต้นทุนและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ / โครงการ Best Practice และควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเหมาะสม
7. พัฒนาบุคลากร และสร้างเสริมควาามสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานภายในองค์กร
 
 
 
 
          
       คณะกรรมการบริษัท มีการพิจารณาทบทวนปรัชญาในการดำเนินธุรกิจ วิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยม กลยุทธ์ขององค์กรอย่างสม่ำเสมอ โดยพิจารณาร่วมกับ คณะกรรมการบริหารเพื่อปรับปรุงให้สอดคล้องกับเป้าหมาย และกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในอนาคต นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัท ยังได้มีการติดตามดูแลให้มีการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ พร้อมกับติดตามผลการดำเนินงานของฝ่ายจัดการเป็นระยะๆ
       ในรอบปีที่ผ่านมา ที่ประชมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2567 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ได้มีการพิจารณาทบทวนปรัชญาในการดำเนินธุรกิจ วิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยม กลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบริษัท
                 
                                
                    
	- 
	
	
	
	
	บริษัทจดทะเบียนด้วยทุนชำระแล้ว 10 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ "บริษัท โอเรียนท์รับเบอร์ลาเท็คซ์ จำกัด" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากน้ำยางธรรมชาติ เช่น น้ำยางข้น สกิมบล็อค และยางเครฟ ตั้งอยู่ที่ อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี 
 
 
 
- 
	
	
	
	
	เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2532 บริษัท โอเรียนท์รับเบอร์ลาเท็คซ์ จำกัด ได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (1988) จำกัด หรือ "THAITEX" เป็นกลุ่มผู้ผลิตน้ำยางข้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจำหน่ายน้ำยางข้น 60% DRC ทั้งในประเทศ และ นานาชาติ 
 
 
 
- 
	
	
	
	
	ต่อมา บริษัทฯ เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด และเข้าซื้อหุ้น บริษัท ไทยรับเบอร์แอนด์ลาเท็กซ์ จำกัด (จังหวัดระยอง) บริษัท เอ็กเซลรับเบอร์ จำกัด (จังหวัดสงขลา) และ บริษัท โอเรียนสุราษฎร์รับเบอร์ จำกัด (จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) เพื่อสร้างมาตรฐานคุณภาพของการผลิตน้ำยางข้น และสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในภาคอุตสาหกรรมผู้ใช้น้ำยางข้น 
 
 
 
- 
	
	
	
	
	บริษัทฯ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้ชื่อ บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2536 ภายใต้นโยบายการเติบโตอย่างมั่นคง และการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องในธุรกิจ ที่เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจหลักของบริษัทฯ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 
 
 
 
- 
	
	
	
	
	บริษัทฯ ได้ย้ายสำนักงานมาตั้งอยู่เลขที่ 99 / 1-3 หมู่ 13 ซอย บางนา-ตราด 45 ถนนบางนา-ตราด กม. 7 ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540 โดยนโยบายการขยายปริมาณ ด้านการผลิตน้ำยางข้น ที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน และได้มีการจัดตั้งบริษัทใหม่อีกแห่งหนึ่งภายใต้ชื่อ "บริษัท ภูเก็ตลาเท็กซ์ จำกัด" ในจังหวัดพังงา 
 
 
 
- 
	
	
	
	
	บริษัทฯ มีการลงทุนในธุรกิจทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ โดยเข้าซื้อกิจการ บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) ที่จังหวัดระยอง ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและส่งออกยางยืด (Rubber Thread) ไปยังตลาดต่างประเทศ และยังได้ลงทุนในบริษัทร่วม คือ บริษัท วังสมบูรณ์สวนยาง จำกัด ในจังหวัดสระแก้ว 
 
 
 
- 
	
	
	
	
	บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจในการทำสวนยางพารา และได้จัดตั้ง บริษัท ไทยรับเบอร์ซิตี้ จำกัด ในจังหวัดน่าน เชียงรายและพะเยา ต่อมา บริษัท ไทยรับเบอร์ซิตี้ จำกัด ได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไทยรับเบอร์ แลนด์ แอนด์ แพลนเตชั่น จำกัด และดำเนินกิจการสวนยางอย่างมีประสิทธิภาพ 
 
 
 
- 
	
	
	
	
	เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2548 บริษัทย่อยทั้ง 7 แห่ง มารวมกืจการ เพื่อผลิตน้ำยางข้น ภายใต้ บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด  
 
 
 
- 
	
	
	
	
	THAITEX เข้าลงทุนโดยการเข้าถือหุ้น 56% ของ บริษัท เลเท็กซ์ ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นธุรกิจผลิตและจำหน่ายที่นอนและหมอนยางพาราธรรมชาติทั้งในและต่างประเทศ 
 
 
 
- 
	
	
	
	
	บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด เข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (เซี่ยงไฮ้) ซึ่งเป็น บริษัทย่อยอีกแห่งในประเทศจีน เพื่อดำเนินธุรกิจการค้าผลิตภัณฑ์ยางทุกประเภท 
 
 
 
- 
	
	
	
	
	บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด ถูกโอนหุ้นและทรัพย์สินทั้งหมด ไปยัง บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ซึ่งเป็นบริษัทแม่) เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2560 
 
 
 
- 
	
	
	
	
	เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2562 บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 
 
 
 
- 
	
	
	
	
	เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2564 บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัท ไทยรับเบอร์โกลฟส์ จำกัด เพื่อผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติทั้งในและต่างประเทศ   
 
 
 
 
ปัจจุบันบริษัท ไทยรับเบอร์ฯ มีโรงงานผลิตน้ำยางข้นจำนวน 5 แห่ง ทั่วประเทศไทยทั้งภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคเหนือ
 
                 
                                
                    
 นายวรเทพ วงศาสุทธิกุล
ประธานกรรมการบริษัท / กรรมการกำหนดค่าตอบแทน /
นายวรเทพ วงศาสุทธิกุล
ประธานกรรมการบริษัท / กรรมการกำหนดค่าตอบแทน /
  กรรมการบริหารความเสี่ยง / ประธานกรรมการบริหาร นายไพบูลย์ วรประทีป
รองประธานกรรมการบริษัท / กรรมการบริหารความเสี่ยง
นายไพบูลย์ วรประทีป
รองประธานกรรมการบริษัท / กรรมการบริหารความเสี่ยง นายภัทรพล วงศาสุทธิกุล
กรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ /
นายภัทรพล วงศาสุทธิกุล
กรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ /
กรรมการบริหารความเสี่ยง / กรรมการบริหาร  
 นางสุชาดา โสตถิภาพกุล
กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการบริหารความเสี่ยง
นางสุชาดา โสตถิภาพกุล
กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการบริหารความเสี่ยง นายยรรยง ถาวโรฤทธิ์
กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการตรวจสอบ
นายยรรยง ถาวโรฤทธิ์
กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการตรวจสอบ นายสุรพล ขวัญใจธัญญา
กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการกำหนดค่าตอบแทน /
กรรมการตรวจสอบ
นายสุรพล ขวัญใจธัญญา
กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการกำหนดค่าตอบแทน /
กรรมการตรวจสอบ  
 นางสาวฉลองขวัญ วงศาสุทธิกุล
กรรมการและเลขานุการบริษัท / กรรมการบริหาร
นางสาวฉลองขวัญ วงศาสุทธิกุล
กรรมการและเลขานุการบริษัท / กรรมการบริหาร  นายประวิทย์ วรประทีป
กรรมการบริษัท / กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง /
กรรมการบริหาร
นายประวิทย์ วรประทีป
กรรมการบริษัท / กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง /
กรรมการบริหาร  ดร.พสิษฐ์พล เต็มฤทธิกุลชัย
กรรมการบริษัท
ดร.พสิษฐ์พล เต็มฤทธิกุลชัย
กรรมการบริษัท 
 ผศ.ดร. สมภพ ระงับทุกข์
กรรมการอิสระ / กรรมการตรวจสอบ
ผศ.ดร. สมภพ ระงับทุกข์
กรรมการอิสระ / กรรมการตรวจสอบ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์
กรรมการบริษัท / กรรมการกำหนดค่าตอบแทน
นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์
กรรมการบริษัท / กรรมการกำหนดค่าตอบแทน 
 
 
          หน้าที่ประธานกรรมการบริษัท
          ประธานกรรมการบริษัทมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลกิจการของบริษัทให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นธรรม หน้าที่หลักๆ ของประธานกรรมการบริษัท ประกอบด้วย
 
1. กำกับดูแลการทำงานของคณะกรรมการบริษัท
	- ดูแลให้คณะกรรมการบริษัททำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นธรรม บรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมาย
- ตรวจสอบให้คณะกรรมการบริษัทปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ และมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น
- ส่งเสริมให้คณะกรรมการบริษัทมีการประเมินผลการทำงานของตนเองอย่างสม่ำเสมอ
- ดูแลกรรมการทุกคนให้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรที่มีจริยธรรมและการกำกับดูแลกิจการที่ดี
 2. เป็นผู้นำของคณะกรรมการบริษัท
	- กำหนดทิศทางและกลยุทธ์ของบริษัท
- กำกับดูแลการทำงานของคณะกรรมการบริหาร
- เป็นตัวแทนของคณะกรรมการบริษัทในการติดต่อสื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสีย
 3. กำหนดโครงสร้าง ขนาด จำนวน ของคณะกรรมการ
	- กำหนดให้มีคณะกรรมการบริษัทที่มีขนาดเหมาะสมและมีความสมดุลระหว่างกรรมการที่เป็นผู้บริหารและกรรมการอิสระ
- แต่งตั้งกรรมการอิสระให้มีคุณสมบัติเหมาะสม
- กำหนดให้มีคณะกรรมการชุดย่อยตามความจำเป็น
 4. เรียกประชุมคณะกรรมการบริษัท
	- เป็นประธานในการประชุม
- กำหนดวาระการประชุม
- ควบคุมการประชุมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
 5. เป็นประธานในการประชุมผู้ถือหุ้น
	- เป็นประธานในการประชุม
- กำหนดวาระการประชุมร่วมกับคณะกรรมการบริษัท
- ควบคุมการประชุมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
6. จัดให้มีช่องทางในการติดต่อ สื่อสาร
	- จัดให้มีช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างคณะกรรมการบริษัท ฝ่ายบริหาร และผู้ถือหุ้น
- เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นสามารถแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะต่อคณะกรรมการบริษัท
- เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกรรมการที่เป็นผู้บริหารและกรรมการที่ไม่ได้เป็นผู้บริหาร และระหว่างคณะกรรมการและฝ่ายจัดการ
 7. จัดให้คณะกรรมการบริษัท ได้รับข้อมูล
	- จัดให้คณะกรรมการบริษัทได้รับข้อมูลที่เพียงพอ ตรงเวลา และครบถ้วนสำหรับการประชุม
- เปิดโอกาสให้คณะกรรมการบริษัทซักถามและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่ได้รับ
 8. ลงคะแนนเสียงชี้ขาดในกรณีที่คะแนนเสียงในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเท่ากัน
 
 9. ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่กฎหมายหรือข้อบังคับบริษัทกำหนด
 
 
ขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริหาร
          บริษัทได้จัดทำระเบียบข้อบังคับการทำงานและอำนาจดำเนินการไว้เป็นกรอบการบริหารจัดการตามอำนาจหน้าที่ด้วย ดังนี้
	- 
	พิจารณากำหนดเป้าหมาย นโยบาย แผนงานและการจัดสรรงบประมาณประจำปีตามที่ฝ่ายจัดการเสนอ ก่อนนำเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาอนุมัติ ทั้งนี้ให้รวมถึงการพิจารณาอนุมัติการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมงบประมาณรายจ่ายประจำปีในระหว่างที่ไม่มีการประชุมคณะกรรมการบริษัทและให้นำเสนอคณะกรรมการบริษัทเพื่อทราบในที่ประชุมคราวถัดไป 
- 
	ให้ผู้บริหารงานฝ่ายต่างๆ ที่รับผิดชอบต่อการดำเนินงานในกิจการต่างๆ รายงานผลงานให้คณะกรรมการบริหารทราบทุกเดือน 
- 
	อนุมัติการใช้จ่ายเงินตามระเบียบบริษัทที่กำหนดไว้ 
- 
	อนุมัติการใช้จ่ายเงินลงทุนที่ได้กำหนดไว้ในงบประมาณประจำปี หรือที่คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติไว้ในงบประมาณประจำปี หรือที่คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติไว้ในหลักการแล้ว 
- 
	อนุมัติในหลักการการลงทุนในการขยายธุรกิจ ตลอดจนการร่วมทุนกับผู้ประกอบกิจการอื่นและให้นำเสนอคณะกรรมการบริษัท เพื่ออนุมัติในที่ประชุมคราวถัดไป 
- 
	อนุมัติการแต่งตั้งผู้มีอำนาจลงนามในเช็คหรือเอกสารสั่งจ่ายเงินของบริษัท 
- 
	เป็นคณะที่ปรึกษาฝ่ายจัดการในเรื่องเกี่ยวกับนโยบายด้านการผลิต การตลาด การเงิน การบริหารบุคคลและด้านการปฏิบัติการอื่นๆ 
- 
	กำกับดูแลเรื่องการพัฒนาความยั่งยืนองค์กร และการบริหารจัดการผลกระทบ  ความเสี่ยงหรือโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 
- 
	อนุมัติการแต่งตั้งโยกย้าย และเลิกจ้างพนักงาน 
- 
	ดำเนินการใดๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท 
 
บทบาทหน้าที่ของกรรมการผู้จัดการใหญ่
	- 
	การกำหนดนโยบาย วิสัยทัศน์ วัตถุประสงค์ กลยุทธ์ แผนธุรกิจ และงบประมาณประจำปีของบริษัทฯ และบริษัทย่อย เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการบริหาร และ/หรือ คณะกรรมการบริษัทฯเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป 
- 
	การดูแล บริหาร ดำเนินงาน และปฏิบัติงานประจำตามปกติธุรกิจเพื่อประโยชน์ของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ ทิศทางการดำเนินธุรกิจ นโยบาย กลยุทธ์ทางธุรกิจ เป้าหมาย แผนการดำเนินงาน และแผนงบประมาณประจำปีที่อนุมัติ โดยคณะกรรมการบริหาร และ/หรือ คณะกรรมการบริษัทฯ และ/หรือ ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหาร และ/หรือ คณะกรรมการบริษัทฯ 
- 
	การประสานงานกับคณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อให้การดำเนินการทางธุรกิจ รวมทั้งการบริหารความเสี่ยงของบริษัทเป็นไปตามวัตถุประสงค์และข้อบังคับของบริษัทฯ ตลอดจนมติคณะกรรมการบริหาร และ/หรือ คณะกรรมการบริษัทฯ และ/หรือ มติที่ประชุมผู้ถือหุ้น 
- 
	การอนุมัติการเข้าทำสัญญาและ/หรือธุรกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจปกติของบริษัทฯ (เช่น การซื้อขาย การลงทุนหรือร่วมลงทุนกับบุคคลอื่นเพื่อการทำธุรกรรมตามปกติของบริษัทฯ และเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ) ภายในเงื่อนไขและวงเงินตามที่กำหนดไว้ในอำนาจอนุมัติและดำเนินการ (Delegation of Authority) และ/หรือ ตามที่คณะกรรมการบริหาร และ/หรือคณะกรรมการบริษัทฯ กำหนด และ/หรือ ตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง และ/หรือ ตามข้อบังคับของบริษัทฯ 
- 
	การอนุมัติการกู้ยืมเงินสินเชื่อใดๆ อนุมัติการกู้ยืมเงิน และการขอสินเชื่อใด ๆ จากสถาบันการเงิน การให้กู้ยืม ตลอดจนการจำนำ จำนอง หรือเข้าเป็นผู้ค้ำประกันของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ภายในเงื่อนไขและวงเงินตามที่กำหนดไว้ในอำนาจอนุมัติและดำเนินการ (Delegation of Authority) หรือตามที่คณะกรรมการบริหาร และ/หรือ คณะกรรมการบริษัทฯ กำหนด 
- 
	การติดตาม ตรวจสอบ และควบคุมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ บริษัทย่อย และ/หรือ บริษัทร่วม เพื่อให้มีผลประกอบการที่ดีตามเป้าหมาย และรายงานต่อคณะกรรมการบริหาร และคณะกรรมการบริษัทฯ ทุกไตรมาส รวมถึงหาโอกาสปรับปรุงและพัฒนาให้มีผลประกอบการที่ดีขึ้น 
- 
	พัฒนาองค์กรให้มีผลการดำเนินงานและผลประกอบการที่ดี และมีการปรับปรุงพัฒนาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องเพื่อให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน 
- 
	การจัดการการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ดำเนินการให้มีการศึกษาโอกาสในการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ที่ดี โดยทำการศึกษาทางด้านเทคนิคและด้านการเงินอย่างเหมาะสมและครบถ้วนเพื่อประกอบการตัดสินใจ 
- 
	การบริหารจัดการการพัฒนาความยั่งยืนองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ  รวมถึง การบริหารจัดการผลกระทบ  ความเสี่ยงหรือโอกาส  จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 
- 
	การจัดการซึ่งรายการสินทรัพย์ ดำเนินการเกี่ยวกับการทำรายการที่เกี่ยวโยงกันและรายการได้มาจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ รวมตลอดจนระเบียบบริษัทฯ ซึ่งได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร และ/หรือ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ และ/หรือ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศที่เกี่ยวข้องกำหนด 
- 
	การพิจารณาหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้บริหาร พิจารณาหลักเกณฑ์และวิธีการในการสรรหาคัดเลือกบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงร่วมกับคณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทน 
- 
	การแต่งตั้งที่ปรึกษาด้านต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ ภายในเงื่อนไขและวงเงินตามที่กำหนดไว้ในอำนาจอนุมัติและดำเนินการ (Delegation of Authority) และ/หรือ ตามที่คณะกรรมการบริหาร และ/หรือ คณะกรรมการบริษัทฯ กำหนด 
- 
	กำหนดกฎระเบียบ หลักเกณฑ์ แนวทางปฏิบัติ ข้อกำหนด สำหรับโครงสร้างองค์กรในตำแหน่งถัดลงไปจากกรรมการผู้จัดการใหญ่ รวมถึงการว่าจ้าง แต่งตั้ง โยกย้าย ปลดออก และเลิกจ้างพนักงานบริษัทฯ ในตำแหน่งที่ต่ำกว่ากรรมการผู้จัดการใหญ่ 
- 
	การกำหนดนโยบาย โครงสร้างค่าตอบแทน รูปแบบและหลักเณฑ์ในการจ่ายค่าตอบแทนของพนักงานร่วมกับคณะกรรมการบริหาร และเสนอคณะกรรมการพิจารณาและกำหนดค่าตอบแทนเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนนำเสนอคณะกรรมการบริษัทฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป 
- 
	การพิจารณาค่าตอบแทนพนักงานตามนโยบายโครงสร้างค่าตอบแทนที่คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติ และเสนอคณะกรรมการบริหารเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป 
- 
	การออกคำสั่ง ระเบียบ ประกาศ และบันทึกต่าง ๆ ภายในบริษัทฯ เพื่อให้การดำเนินงานของบริษัทฯ เป็นไปตามนโยบาย และเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทฯ รวมถึงรักษาระเบียบวินัยภายในองค์กรมอบอำนาจ และ/หรือ มอบอำนาจช่วงให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือหลายคนปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดในนามของกรรมการผู้จัดการใหญ่ ภายใต้ขอบเขตอำนาจที่ระบุไว้ในหนังสือมอบอำนาจของบริษัทฯ และ/หรือ ระเบียบ กฎเกณฑ์ หรือมติของคณะกรรมการบริษัทฯ ทั้งนี้ การมอบอำนาจ หน้าที่และความรับผิดชอบของกรรมการผู้จัดการใหญ่นั้นจะไม่มีลักษณะเป็นการมอบอำนาจหรือมอบอำนาจช่วงที่ทำให้กรรมการผู้จัดการใหญ่ หรือผู้รับมอบอำนาจจากกรรมการผู้จัดการใหญ่สามารถอนุมัติรายการที่ตน หรือบุคคลที่อาจมีความขัดแย้ง (ตามที่นิยามไว้ในประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และ/หรือ ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน) อาจมีส่วนได้เสีย หรืออาจได้รับประโยชน์ในลักษณะใด ๆ หรืออาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์อื่นใดกับบริษัทฯ หรือบริษัทย่อยของบริษัทฯ ยกเว้นเป็นการอนุมัติรายการที่เป็นไปตามนโยบายและหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติไว้ 
- 
	ปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหาร และ/หรือ คณะกรรมการบริษัทฯ รวมทั้งมีอำนาจดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว 
 
                 
                                
                    
 
แนวทางการสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่ (CEO) และทักษะที่จำเป็นของผู้นำบริษัท
 
 
 
         
(CEO Skill Matrix)
          บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำยางข้น โดยมุ่งเน้นการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม จึงให้ความสำคัญกับการสรรหาผู้นำระดับสูงที่มีความรู้ ความสามารถ และมีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ธุรกิจและการเติบโตในระยะยาว เพื่อให้การดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ (CEO) มีความเหมาะสมทั้งด้านประสบการณ์ ความสามารถ และภาวะผู้นำ
แนวทางการสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่
          บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์ จำกัด (มหาชน) กำหนดแนวทางการสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่ (CEO) โดยยึดหลักความโปร่งใส ความเหมาะสม และการประเมินตามศักยภาพและทักษะที่จำเป็นต่อการนำองค์กรสู่ความยั่งยืน โดยคณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนมีบทบาทหลักในการกำหนดแนวทาง กำกับดูแล และดำเนินกระบวนการสรรหา เพื่อให้ได้บุคลากรที่มีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งด้านวิสัยทัศน์ ความสามารถในการบริหารจัดการองค์กรในอุตสาหกรรมยางพารา และความเข้าใจในกลไกตลาดน้ำยางข้น การสรรหาดำเนินการอย่างรอบคอบและเปิดกว้าง โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ หรือกีดกันทางเพศ อายุ หรือเชื้อชาติ และให้ความสำคัญกับความรู้ ประสบการณ์ และทักษะเชิงกลยุทธ์ตามกรอบ CEO Skill Matrix ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านความสามารถเชิงวิชาชีพ ทักษะด้านการบริหารจัดการ และภาวะผู้นำในระดับองค์กร เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับผู้นำในอนาคต และรับประกันความต่อเนื่องทางกลยุทธ์ในการบริหารองค์กร สุดท้าย ผลการสรรหาจะนำเสนอคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาและอนุมัติอย่างเป็นทางการ โดยคำนึงถึงความโปร่งใส ธรรมาภิบาล และประโยชน์สูงสุดต่อองค์กรและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนทักษะที่จำเป็น (CEO Skill Matrix)
หลักเกณฑ์การสรรหาและคุณสมบัติของกรรมการผู้จัดการใหญ่ (CEO)
	- พิจารณาจาก CEO Skill Matrix เพื่อประเมินทักษะที่จำเป็นสำหรับธุรกิจด้านน้ำยางข้นและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา
- มีความรู้ลึกในอุตสาหกรรมยางพารา เข้าใจห่วงโซ่อุปทาน การจัดการคุณภาพวัตถุดิบ และกระบวนการแปรรูปน้ำยาง
- มีประสบการณ์ในการบริหารองค์กร หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมแปรรูป มีความเข้าใจกลไกตลาดยางพาราทั้งในและต่างประเทศ
- มีความสามารถด้านกลยุทธ์ธุรกิจ โดยเฉพาะการวางแผนธุรกิจเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนในตลาดวัตถุดิบการเกษตร
- มีภาวะผู้นำที่ได้รับการยอมรับ สามารถบริหารจัดการทีมงานขนาดใหญ่ มีทักษะการสื่อสาร การประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ เกษตรกร และผู้มีส่วนได้เสียในห่วงโซ่ธุรกิจ
- ยึดมั่นหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส และรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมทั้งมีความเข้าใจในหลัก ESG และแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน
- มีความสามารถในการบริหารความเสี่ยงและตอบสนองต่อวิกฤต โดยเฉพาะในประเด็นราคาน้ำยางผันผวน ภัยธรรมชาติ และความไม่แน่นอนในตลาดส่งออก
- กรรมการผู้จัดการใหญ่ สามารถดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทจดทะเบียนอื่นได้แต่ไม่เกิน 5 แห่ง
 
 
 
 
 
	
		
			| กลุ่มสมรรถนะ/ทักษะ | สมรรถนะ/ทักษะ | 
	
	
		
			| ทักษะด้านความเชี่ยวชาญ (Professional Skill)
 | 
				วิสัยทัศน์และการวางกลยุทธ์ (Visionary Thinking & Strategic Planning)สามารถวิเคราะห์แนวโน้มตลาดยางพาราและพัฒนากลยุทธ์ธุรกิจที่ยั่งยืนเข้าใจโครงสร้างต้นทุนวัตถุดิบ การบริหารราคา และการจัดสรรทรัพยากรความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและดิจิทัล (Innovation and Digital Savviness)เข้าใจความต้องการของลูกค้า (ทั้งตลาดในประเทศ/ต่างประเทศ) และวางแผนการตลาดเชิงกลยุทธ์ | 
		
			| ทักษะด้านการบริหารจัดการ (Managerial Skill)
 | 
				การบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management)สามารถขับเคลื่อนองค์กรสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ท่ามกลางความผันผวนของตลาดการจัดการทรัพยากร (Resource Management)ควบคุมการใช้ทรัพยากร เช่น พลังงาน น้ำ วัตถุดิบ อย่างมีประสิทธิภาพ | 
		
			| ทักษะด้านภาวะผู้นำระดับองค์กร (Executive Leadership)
 | 
				แนวคิดแห่งการเติบโต (Growth Mindset)มองหาโอกาสใหม่ ๆ ในตลาด และส่งเสริมการเรียนรู้ภายในองค์กรยึดมั่นหลักธรรมาภิบาล ไม่เกี่ยวข้องกับการเอารัดเอาเปรียบแรงงานหรือเกษตรกรผู้จัดส่งวัตถุดิบ | 
	
 
 
                 
                                
                    
รวมใจเพื่อสันติ ส่งต่อกำลังใจชายแดนไทย–กัมพูชา  
 
           เมื่อวันที่ 31 กรกฏาคม 2568บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสำคัญในการจัดกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องที่ได้รับผลกระทบ ผ่านการระดมสิ่งของจำเป็นและทุนทรัพย์จากพนักงานและผู้มีจิตศรัทธา เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานหรือมูลนิธิภาคสนาม  
ชื่อโครงการ : THAITEX แบ่งปันน้ำใจ เพื่อเด็กพิการ  
 
          ชื่อโครงการ : THAITEX แบ่งปันน้ำใจ เพื่อเด็กพิการ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสำคัญของการช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะกลุ่มเด็กพิการที่ยังคงต้องการการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น เพื่อรวบรวมสิ่งของที่จำเป็นและจัดส่งให้กับมูลนิธิเพื่อเด็กพิการ โดยเป็นการส่งต่อพลังน้ำใจจากพนักงานและองค์กรสู่สังคมอย่างแท้จริง  
 
“THAITEX รวมใจ ถวายเทียน สืบสานพุทธธรรม” 
 
          บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กิจกรรมเนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาจึงเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมคุณค่าทางจิตใจ ความสามัคคี และการมีส่วนร่วมของพนักงาน รวมถึงการสืบสานวัฒนธรรมไทย และการสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างองค์กรกับชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายความยั่งยืนของบริษัทในด้าน “การพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตของชุมชนอย่างต่อเนื่องและมีคุณธรรม”  
ประชุมความคืบหน้าความพร้อมในการดำเนินงานด้าน EUDR 
 
          เมื่อวันอังคารที่ 27 สิงหาคม 2567 เวลา 13.00 น. สมาคมยางพาราไทยนำโดยนายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล นายกสมาคมฯ นายไชยยศ สินเจริญกุล นายกิตติมศักดิ์ นายวรเทพ วงศาสุทธิกุล พร้อมคณะกรรมการ สมาชิก และผู้จัดการสมาคม ฯ เข้าร่วมประชุมแจ้งความคืบหน้าความพร้อมในการดำเนินงานด้าน EUDR ของสินค้ายางพาราแก่ผู้ประกอบการยางพารา โดยมี ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานคณะกรรมการยางแห่งประเทศไทยเป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยนายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รักษาการแทนผู้ว่าการ กยท. ณ ห้องประชุมสถลสถานพิทักษ์ 2 การยางแห่งประเทศไทย บางขุนนนท์ กรุงเทพ ฯ